เจ้าของรถยนต์ที่กำลังศึกษาหาข้อมูลวิธีการเลือกเปลี่ยนยางรถยนต์หรือ
ยางรถเก๋ง เพื่อให้ได้ยางรถที่เหมาะสมกับประเภทรถและลักษณะการใช้งานของตนเองนั้น ตามเรามาทางนี้ เพราะวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลแนวทางการเลือกยางรถยนต์อย่างถูกต้องเหมาะสมกับรถยนต์เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไปและไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
1. อันดับแรก มาทำความรู้จักกับดอกยางกันก่อน
ดอกยาง คือ ส่วนที่นูนออกมาบนหน้ายางรถ ทำหน้าที่ในการยึดเกาะถนนและกระจายน้ำหนักของตัวรถให้เท่ากันบนยางแต่ละเส้น และ ร่องยาง คือ เป็นส่วนที่อยู่ลึกลงไปในดอกยาง ทำหน้าที่ในการรีดน้ำที่ขังบนถนน เพื่อให้หน้ายางได้สัมผัสเกาะยึดพื้นถนนได้มากที่สุด
2. ความหมายของตัวเลขและตัวอักษรบนแก้มยาง
บน
ยางรถยนต์ Bridgestone ทุกรุ่น และยางรถยนต์ทุกยี่ห้อ จะมีตัวเลขและอักษรบนแก้มยาง ซึ่งแต่ละตัวมีความหมายเพื่อบอกลักษณะ ขนาดและความสูงของยาง อย่างเช่น 185/65R15 88H
• 185 คือ ขนาดหน้ากว้างของยางในหน่วยมิลลิเมตร
• 65 คือ ซีรีส์หรือความสูงของแก้มยาง มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ยางเส้นนี้มีความสูงเป็น 65% ของแก้มยาง หรือเท่ากับ 120.25 มิลลิเมตร (186 x 65% = 120.25)
• R คือ ชนิดของโครงสร้างยาง ซึ่ง R หมายถึง ยางชนิดเรเดียล
• 15 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางของวงล้อ ที่มีหน่วยเป็นนิ้ว
• 88 คือ ค่าดัชนีในการรับน้ำหนักสูงสุดของยางหนึ่งเส้น
• H คือ ตัวอักษรที่แสดงขีดจำกัดของความเร็วสูงสุดในการขับขี่ ซึ่งเทียบตัวเลขได้จากตารางขีดจำกัดความเร็วสูงสุด
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลข 4 ตัวติดกันใกล้เส้นขอบแก้ม ยาง bridgestone ด้านนอก ซึ่งเป็นตัวบอกเลขลำดับที่ของสัปดาห์และปีที่ผลิต (WWYY) เช่น เลข 0619 คือ ผลิตในสัปดาห์ที่ 6 ของปี 2019 หรือในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 นั่นเอง
3. เลือกยางให้ถูกต้อง ได้ทั้งสมรรถนะและประหยัด
การเลือกเปลี่ยนยางรถยนต์ ไม่ใช่การเลือกว่าจะเลือกซื้อ ยางรถเก๋งยี่ห้อไหนดี เท่านั้น แต่การเลือกยางที่ถูกวิธี คือ การเลือกขนาดยางรถให้เหมาะสมกับรุ่นและยี่ห้อของรถ ซึ่งดูได้จากคู่มือประจำรถหรือตัวเลขและตัวอักษรบนแก้มยาง หรือสอบถามจากช่างผู้เชี่ยวชาญด้านยางได้ที่ศูนย์ ยางรถยนต์ bridgestone ใกล้บ้าน นอกจากเลือกขนาดยางรถให้ถูกแล้ว การเลือกชนิดของยางให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานหรือสไตล์การขับขี่ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยแจ้งลักษณะการใช้งานและนิสัยการขับขี่ของเราแก่ช่างยางประจำศูนย์ เพื่อให้ช่างช่วยเลือกชนิดและรุ่นของยางให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด อาทิเช่น ยางนุ่มเงียบ, ยางสมรรถนะสูง, ยางประหยัดน้ำมัน เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ความเงียบสบายขณะขับขี่ และยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานขึ้น
4. เวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนยาง
วิธีการตรวจเช็กว่าถึงเวลาในการเปลี่ยนยางหรือยังนั้น โดยเช็กจากความสึกหรอเสียหายของความลึกดอกยาง หากดอกยางมีลึกต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร หรือปุ่มในร่องดอกยางสึกถึงสะพานยางแล้ว นั่นแสดงว่ายางสึกและถึงเวลาแล้วในการเปลี่ยนยางใหม่ นอกจากความสึกของดอกยางแล้ว เราตรวจดูความผิดปกติของสภาพยางด้วยว่า เนื้อยางมีรอยแตกลายงา รอยนูนบวมที่ผิดปกติหรือไม่
5. เปลี่ยนยางใหม่แล้ว ต้องดูแลรักษายางรถอย่างไร
เมื่อเปลี่ยนยางใหม่แล้วก็ควรดูแลรักษายางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานของยาง โดยการตรวจเช็กและรักษาความดันของลมยางให้อยู่ในเกณฑ์ปกติตามที่กำหนดไว้ของยางแต่ละรุ่น ไม่ควรให้ความดันของลมยางมากเกินไปหรือน้อยเกินไปกว่าเกณฑ์ปกติที่กำหนดไว้ ควรตรวจเช็กประจำทุกสัปดาห์หรืออย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง และควรเข้าศูนย์เพื่อสลับยางทุกการใช้งาน 10,000 กิโลเมตร เพราะยางด้านหน้าจะสึกหรอเร็วกว่ายางด้านหลัง การสลับยางจะช่วยให้ยางมีระดับการสึกที่เท่ากัน เพื่อช่วยรักษาสมดุลในการขับขี่และยืดอายุการใช้งานให้แก่ยางรถยนต์ แต่สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ หรือผู้ที่ไม่มีข้อมูลในการดูแลรักษายางอย่างถูกวิธี สามารถเข้าตรวจสอบเช็กสภาพยางทุกระยะ 10,000 กิโลเมตร เพื่อขอคำแนะนำกับช่างผู้เชี่ยวชาญด้านยางที่ศูนย์บริการ ยาง bridgestone ทุกสาขาทั่วประเทศ
การจะเลือกว่า ยางรถเก๋งยี่ห้อไหนดี
ยางรถกะบะยี่ห้อไหนดี ที่คุ้มค่าที่สุดนั้น ให้เลือกยางจากผู้ผลิตที่ได้รับมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และมีการรับประกันด้านคุณภาพ แล้วกับคำถามที่ว่า ยาง bridgestone ดีไหม นั้น สามารถเชื่อมั่นได้จากรางวัล “แบรนด์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของประเทศไทย” ที่ได้รับถึง 8 ปีซ้อน ได้รับความนิยมจากคนไทยเสมอมา ที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งานทั่วประเทศในด้านคุณภาพและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ หากคุณกำลังมองหายางที่มีคุณภาพใช้ได้คงทนและยังไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนยางยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำยางนุ่มเงียบสำหรับรถเก๋งของ Bridgestone